George Simon Ohm
ยอร์ช ไซมอน โอห์ม
-----------------------------------------------------------------
บุคคลสำคัญของโลคนนี้ เป็นนักฟิสิกส์ชาวเยอรมันที่ต้องพบกับความยากลำบากเกี่ยวกับการศึกษาในวัยเยาว์อันเนื่องมาจากความยากจน แม้เมื่อเขาได้ค้นพบผลงานอันมีค่าแล้ว ก็ยังมีบางคนไม่เข้าใจ จนเขาได้รับการวิจารณ์อย่างรุนแรง และถูกบังคับให้ออกจากตำแหน่งครูที่เขาสอนอยู่ จนว่างงานไปถึง 6 ปี
ยอร์ช ไซมอน โอห์ม เกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม ปี ค.ศ. 1787 ที่แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมัน บิดาเขาเป็นนายช่างกล ที่ให้การสนับสนุนให้ลูกชายได้รับการศึกษาอย่างดี แม้จะมีฐานะยากจน เมื่อเขาจบการศึกษาแล้วก็ทำงานเป็นครูสอนในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง โดยสอนคณิตศาสตร์และฟิสิกส์
ในสมัยนั้น นักวิทยาศาสตร์ชื่อฟอเรย์ ได้ค้นพบการไหลของความร้อน ซึ่งโอห์มสนใจมาก เขาจึงนำเอาความคิดนี้มาทดลองกับกระแสไฟฟ้าดู โดยใช้เส้นลวดที่มีขนาดต่างๆกัน การทดลองนี้ทำให้โอห์มพบว่า “ปริมาณกระแสไฟฟ้าจะแปรเปลี่ยนค่าโดยทางกลับกัน กับความยาวของสายไฟ และจะแปรเปลี่ยนไปในทางตรงกันกับพื้นที่หน้าตัดของสายไฟ”
โดยหลักการนี้เอง โอห์ม จึงสามารถหาค่าของความต้านทานได้โดยตั้งกฎที่เป็นที่มาของกฎของโอห์มว่า “การไหลของกระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวนำ ย่อมเป็นปฏิภาคโดยตรงกับความต่างศักย์ และเป็นปฏิภาคโดยกลับกันกับความต้านทาน”
โอห์มได้ประกาศความคิดเห็นนี้ในปี ค.ศ. 1827 แต่ผลงานของเขาไม่เป็นที่สนใจในประเทศเยอรมันนัก ซ้ำถูกวิจารณ์อย่างรุนแรง แต่ในประเทศอังกฤษเขาได้รับการยกย่องมาก จนได้รับเหรียญคอพเลย์ในปี ค.ศ. 1841
จากเกียรติที่โอห์มได้รับในต่างแดน ทำให้รัฐบาลเยอรมันเริ่มเห็นคุณค่า และมอบตำแหน่งศาสตราจารย์ให้เขาและยังใช้ชื่อของเขาเป็นหน่วยวัดความต้านทานไฟฟ้าคือ โอห์ม ด้วย โดยมีความหมายว่า “กระแสไฟฟ้า 1 แอมแปร์ ไหลผ่านตัวนำภายใต้ความต่างศักย์ 1 โวลต์ ค่าของตัวนำนั้นมีความต้านทาน 1 โอห์ม”
โอห์มถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ปี ค.ศ. 1854 รวมอายุได้ 67 ปี
Important Persons of the World:Their Lives and Contributions to the World william Harveyฮิปโปเครติส, james watt,จอห์น ดอลตัน (john dalton),บุคคลที่สร้างผล งานให้โลก,john baird, william Harvey,บุคคลสำคัญของโลก, richard Trevithick,บุคคลสำคัญของโลก ผลงานทางการแพทย์, lord ernest Rutherford,บทบาทและความสำคัญหลุยปาสเตอร์,ผู้ประดิษฐ์เครื่องบินลําแรกของโลก ประวัคิชีวิตบุคคนสำคัญที่สุดในโลก, ภาพเเละความดีของบุคคลสำคัญที่ช่วยเหลือคนอื่น,
Wednesday, January 12, 2011
George Stephenson:ยอร์ช สตีเฟนสัน
George Stephenson
ยอร์ช สตีเฟนสัน
---------------------------------------------------------------------------
บุคคลสำคัญท่านนี้เป็นวิศวกรชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้นำคนหนึ่งในการคิดค้น และปรับปรุงเครื่องจักรไอน้ำ สำหรับรถไฟ จนใช้งานได้ดี งานประดิษฐ์ของเขาเรียกได้ว่าสานต่อจากงานของ ริชาร์ด ทรีวิธิค ที่ได้เริ่มไว้เมื่อปี ค.ศ. 1804 ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ยอร์ช สตีเฟนสัน เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1781 ที่เมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ บิดาของเขาทำงานในเหมืองถ่านหิน ทำหน้าที่ดูแลเครื่องจักรไอน้ำ ซึ่งสูบน้ำจากเหมือง ในวัยเด็กเขาไม่เคยได้ไปโรงเรียน ได้แต่ทำงานในไร่ถอนหัวผักกาด
เมื่อโตเป็นหนุ่มเขาเริ่มให้ความสนใจและหลงใหลเครื่องสูบน้ำมาก และได้ทำงานเป็นผู้ช่วยของบิดาเมื่ออายุ 14 ปี ในระหว่างนั้นเขาได้ใช้เวลาว่างถอดเครื่องยนต์และเครื่องจักรไอน้ำออกเป็นชิ้นๆ และศึกษาชิ้นส่วนเหล่านั้นและทำเป็นแบบจำลองขึ้น
เขาเรียนการอ่านด้วยตนเองและจะอ่านทุกสิ่งที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องเครื่องจักรจากผลงานการประดิษฐ์ของทรีวิธิค ทำให้สตีเฟนสันมีความตั้งใจที่จะออกแบบเครื่องจักรไอน้ำที่ใช้กับรถไฟให้ดียิ่งขึ้นให้มีขนาดเล็กลง ลดเสียงให้ดังน้อยลง และแล่นให้เร็วยิ่งขึ้น
เมื่อมีอายุได้ 33 ปี เขาก็ผลิตยานพาหนะลำแรก โดยลดเสียงเครื่องยนต์ให้ดังน้อยลง โดยการต่อท่อนำไอน้ำจากลูกสูบของเครื่องไปยังกรวย และพบว่าท่อและกรวยนี้ช่วยเพิ่มการดูดลมผ่านเตาเผาของเครื่องจักร ทำให้เครื่องจักรของเขามีกำลังมากกว่าเครื่องจักรของทรีวิธิค และแล่นได้เร็วขึ้นราว 35 ไมล์ต่อชั่วโมงและได้รับการยอมรับโดยเจ้าของเหมืองถ่านหินหลายรายตกลงใจที่จะใช้เครื่องจักรของเขาในการขนส่งถ่านหิน
สตีเฟนสันให้ชื่อรถไฟที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำของเขาว่า “ร็อกเก็ต” ผลงานของสตีเฟนสันได้ชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้น และบุกเบิกเกี่ยวกับรถไฟเป็นครั้งแรก การริเริ่มของเขาได้รับการปรับปรุงและสานต่อจากวิศวกรรุ่นต่อๆมาให้รถไฟมีประสิทธิภาพดีขึ้น แล่นได้เร็วขึ้นและทันสมัยยิ่งขึ้น จนทุกวันนี้ขบวนรถไฟด่วนสามารถแล่นได้ความเร็วกว่า 125 ไมล์ต่อชั่วโมง
ยอร์ช สตีเฟนสัน ถึงแก่กรรม ในปี ค.ศ. 1848
ยอร์ช สตีเฟนสัน
---------------------------------------------------------------------------
บุคคลสำคัญท่านนี้เป็นวิศวกรชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้นำคนหนึ่งในการคิดค้น และปรับปรุงเครื่องจักรไอน้ำ สำหรับรถไฟ จนใช้งานได้ดี งานประดิษฐ์ของเขาเรียกได้ว่าสานต่อจากงานของ ริชาร์ด ทรีวิธิค ที่ได้เริ่มไว้เมื่อปี ค.ศ. 1804 ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น
ยอร์ช สตีเฟนสัน เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1781 ที่เมืองนิวคาสเซิล ประเทศอังกฤษ บิดาของเขาทำงานในเหมืองถ่านหิน ทำหน้าที่ดูแลเครื่องจักรไอน้ำ ซึ่งสูบน้ำจากเหมือง ในวัยเด็กเขาไม่เคยได้ไปโรงเรียน ได้แต่ทำงานในไร่ถอนหัวผักกาด
เมื่อโตเป็นหนุ่มเขาเริ่มให้ความสนใจและหลงใหลเครื่องสูบน้ำมาก และได้ทำงานเป็นผู้ช่วยของบิดาเมื่ออายุ 14 ปี ในระหว่างนั้นเขาได้ใช้เวลาว่างถอดเครื่องยนต์และเครื่องจักรไอน้ำออกเป็นชิ้นๆ และศึกษาชิ้นส่วนเหล่านั้นและทำเป็นแบบจำลองขึ้น
เขาเรียนการอ่านด้วยตนเองและจะอ่านทุกสิ่งที่เขียนเกี่ยวกับเรื่องเครื่องจักรจากผลงานการประดิษฐ์ของทรีวิธิค ทำให้สตีเฟนสันมีความตั้งใจที่จะออกแบบเครื่องจักรไอน้ำที่ใช้กับรถไฟให้ดียิ่งขึ้นให้มีขนาดเล็กลง ลดเสียงให้ดังน้อยลง และแล่นให้เร็วยิ่งขึ้น
เมื่อมีอายุได้ 33 ปี เขาก็ผลิตยานพาหนะลำแรก โดยลดเสียงเครื่องยนต์ให้ดังน้อยลง โดยการต่อท่อนำไอน้ำจากลูกสูบของเครื่องไปยังกรวย และพบว่าท่อและกรวยนี้ช่วยเพิ่มการดูดลมผ่านเตาเผาของเครื่องจักร ทำให้เครื่องจักรของเขามีกำลังมากกว่าเครื่องจักรของทรีวิธิค และแล่นได้เร็วขึ้นราว 35 ไมล์ต่อชั่วโมงและได้รับการยอมรับโดยเจ้าของเหมืองถ่านหินหลายรายตกลงใจที่จะใช้เครื่องจักรของเขาในการขนส่งถ่านหิน
สตีเฟนสันให้ชื่อรถไฟที่ใช้เครื่องจักรไอน้ำของเขาว่า “ร็อกเก็ต” ผลงานของสตีเฟนสันได้ชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้น และบุกเบิกเกี่ยวกับรถไฟเป็นครั้งแรก การริเริ่มของเขาได้รับการปรับปรุงและสานต่อจากวิศวกรรุ่นต่อๆมาให้รถไฟมีประสิทธิภาพดีขึ้น แล่นได้เร็วขึ้นและทันสมัยยิ่งขึ้น จนทุกวันนี้ขบวนรถไฟด่วนสามารถแล่นได้ความเร็วกว่า 125 ไมล์ต่อชั่วโมง
ยอร์ช สตีเฟนสัน ถึงแก่กรรม ในปี ค.ศ. 1848
Gottlieb Daimler:ก๊อทท์ลีบ เดมเลอร์
Gottlieb Daimler
ก๊อทท์ลีบ เดมเลอร์
-----------------------------------------------------------
บุคคลที่จะนำเสนอท่านต่อไปคือ ก๊อทท์ลีบ เดมเลอร์ เป็นวิศวกรผู้คิดประดิษฐ์รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แทนการใช้ม้าเทียมได้เป็นครั้งแรก นับเป็นการปฏิวัติทางการขนส่งครั้งใหญ่ที่สุดของโลก
เดมเลอร์เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1834 ที่เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในเวิดเทมเบอร์ ประเทศเยอรมัน บิดาเป็นคนทำขนมปัง ส่วนมารดาเป็นบุตรีเจ้าของร้านขายเครื่องเหล็ก เขาเป็นลูกคนที่สองในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 4 คนซึ่งเป็นผู้ชายล้วน ในปี ค.ศ. 1848
เมื่อเขามีอายุได้ 14 ปี ก็เกิดการจราจลและปฏิวัติทั่วประเทศ บิดาของเดมเลอร์จึงให้ลูกชายทำงานทางด้านการผลิตปืนแทนที่จะทำงานราชการตามที่เดมเลอร์เคยใฝ่ฝันไว้ว่าจะทำ แต่อาชีพนี้ก็เป็นที่พอใจของเขา
ต่อมาเมื่ออายุได้ 19 ปี เดมเลอร์ตัดสินใจที่จะไปฝึกเป็นวิศวกรโดยเข้าทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งในเใมืองสตราสเบอร์ก และเข้าเรียนทางด้านวิศวกรรมในวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาวิธีการทำงานของวิศวกรในประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และเบลเยี่ยม เมื่อเดินทางกลับประเทศเยอรมัน เดมเลอร์ก็ได้ร่วมงานกับบริษัทชื่อออตโตและแลงเกน ซึ่งขณะนั้นบริษัทแห่งนี้กำลังสร้างเครื่องยนต์ระบบใหม่ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของเครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้ภายใน
เดมเลอร์ได้ร่วมสร้างเครื่องยนต์แบบใหม่นี้กับออตโตเจ้าของบริษัท แต่เกิดการขัดแย้งกันขึ้นจนต้องออจากงาน ต่อมาเดมเลอร์ตัดสินใจที่จะตั้งโรงงานประกอบเครื่องยนต์ขึ้นเอง จนในปี ค.ศ. 1884 เดมเลอร์ก็ผลิตเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันขนาดเล็กพอที่จะนำไปใช้กับยานยนต์และมีประสิทธิภาพได้เป็นเครื่องแรก และทดลองใส่กับรถจักรยานยนต์ ซึ่งเครื่องยนต์ก็ทำงานได้ดี
หลังจากนั้นเดมเลอร์ก็ได้ทำการปรับปรุงเครื่องยนต์ และออกแบบเครื่องยนต์ซึ่งจะใช้กับเครื่องยนต์นี้จนสามารถประดิษฐ์เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก รถยนต์ของเขาขับขี่ได้อย่างคล่องแคล่ว วิ่งเรียบและใช้งานได้ดี จนเดมเลอร์กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไป
เดมเลอร์ถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1900 เมื่อเขาอายุได้ 66 ปี บริษัทเดมเลอร์ของเขาก็ยังดำเนินกิจการและเป็นรถที่มีชื่อเสียงอยู่ในอันดับแนวหน้าของโลกตราบเท่าทุกวันนี้
ก๊อทท์ลีบ เดมเลอร์
-----------------------------------------------------------
บุคคลที่จะนำเสนอท่านต่อไปคือ ก๊อทท์ลีบ เดมเลอร์ เป็นวิศวกรผู้คิดประดิษฐ์รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แทนการใช้ม้าเทียมได้เป็นครั้งแรก นับเป็นการปฏิวัติทางการขนส่งครั้งใหญ่ที่สุดของโลก
เดมเลอร์เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1834 ที่เมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในเวิดเทมเบอร์ ประเทศเยอรมัน บิดาเป็นคนทำขนมปัง ส่วนมารดาเป็นบุตรีเจ้าของร้านขายเครื่องเหล็ก เขาเป็นลูกคนที่สองในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 4 คนซึ่งเป็นผู้ชายล้วน ในปี ค.ศ. 1848
เมื่อเขามีอายุได้ 14 ปี ก็เกิดการจราจลและปฏิวัติทั่วประเทศ บิดาของเดมเลอร์จึงให้ลูกชายทำงานทางด้านการผลิตปืนแทนที่จะทำงานราชการตามที่เดมเลอร์เคยใฝ่ฝันไว้ว่าจะทำ แต่อาชีพนี้ก็เป็นที่พอใจของเขา
ต่อมาเมื่ออายุได้ 19 ปี เดมเลอร์ตัดสินใจที่จะไปฝึกเป็นวิศวกรโดยเข้าทำงานในโรงงานแห่งหนึ่งในเใมืองสตราสเบอร์ก และเข้าเรียนทางด้านวิศวกรรมในวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาวิธีการทำงานของวิศวกรในประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และเบลเยี่ยม เมื่อเดินทางกลับประเทศเยอรมัน เดมเลอร์ก็ได้ร่วมงานกับบริษัทชื่อออตโตและแลงเกน ซึ่งขณะนั้นบริษัทแห่งนี้กำลังสร้างเครื่องยนต์ระบบใหม่ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของเครื่องยนต์ที่มีการเผาไหม้ภายใน
เดมเลอร์ได้ร่วมสร้างเครื่องยนต์แบบใหม่นี้กับออตโตเจ้าของบริษัท แต่เกิดการขัดแย้งกันขึ้นจนต้องออจากงาน ต่อมาเดมเลอร์ตัดสินใจที่จะตั้งโรงงานประกอบเครื่องยนต์ขึ้นเอง จนในปี ค.ศ. 1884 เดมเลอร์ก็ผลิตเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมันขนาดเล็กพอที่จะนำไปใช้กับยานยนต์และมีประสิทธิภาพได้เป็นเครื่องแรก และทดลองใส่กับรถจักรยานยนต์ ซึ่งเครื่องยนต์ก็ทำงานได้ดี
หลังจากนั้นเดมเลอร์ก็ได้ทำการปรับปรุงเครื่องยนต์ และออกแบบเครื่องยนต์ซึ่งจะใช้กับเครื่องยนต์นี้จนสามารถประดิษฐ์เป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก รถยนต์ของเขาขับขี่ได้อย่างคล่องแคล่ว วิ่งเรียบและใช้งานได้ดี จนเดมเลอร์กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วไป
เดมเลอร์ถึงแก่กรรมในปี ค.ศ. 1900 เมื่อเขาอายุได้ 66 ปี บริษัทเดมเลอร์ของเขาก็ยังดำเนินกิจการและเป็นรถที่มีชื่อเสียงอยู่ในอันดับแนวหน้าของโลกตราบเท่าทุกวันนี้
Subscribe to:
Posts (Atom)